มีหลายคนเข้าใจผิดๆกันเยอะมากเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า DAWs แต่ละอันให้คุณภาพเสียงไม่เหมือนกัน
บางคนก็บอกว่า Cubase อัดเสียงดีสุด, บางคนก็บอกว่า Logic Pro เสียงคุณภาพดีที่สุดแล้ว
แต่วันนี้ผมจะพาทุกท่านมาเคลียร์ให้ชัดเจนกันไปเลยว่า DAWs แต่ละตัวเสียงมันแตกต่างกันจริงไหม?

DAWs คืออะไรกันแน่?

ผมต้องพาทุกๆคนกลับมาทบทวนให้ชัดเจนก่อนว่า DAWs คืออะไร

DAWs ย่อมาจาก “Digital Audio Workstations” หรือแปลเป็นไทยก็คือโปรแกรมสำหรับทำงานด้านเสียงโดยเฉพาะ ซึ่งมีหน้าที่บันทึก, แก้ไข และ การมิกซ์เสียง โดยแต่ละโปรแกรมมีความต่างกันตรงที่หน้าตา และวิธีการใช้งาน

นั้นแปลว่า เสียงจะคุณภาพดีหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับตัวโปรแกรม DAWs เพราะมันมีหน้าที่เพียงแค่นำเสียงต่างๆมาจัดเรียงและแก้ไขให้เป็นเพลงเท่านั้น แต่เสียงนั้นจะคุณภาพดีหรือไม่ อยู่ที่ Plugin, Sample, Audio Interface, Hardware, และอุปกรณ์ของเราเอง

แล้วอะไรมีผลกับคุณภาพเสียง?

ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ Sound card, ตัวอุปกรณ์ไม่ว่าจะทั้งไมค์, ลำโพง, หูฟัง,ตัว Plugin, และ Sample เองครับ

เพราะ Sound card หรือที่เรียกว่า Audio Interface เป็นตัวแปลงสัญญาณเสียง ช่วยประมวลผลเสียง และทำการเชื่อมต่อเสียง ขาเข้าและออกจากคอมพิวเตอร์ ยังช่วยเรื่องการประมวลผลของเสียงให้ไวขึ้น เสียงดีขึ้นอีกด้วย

Plugin หรือ Sample นั้นคือตัว Software จำลองเครื่องดนตรีที่ใช้ในการทำเพลง จะมีทั้งขนาดไฟล์เล็กๆ ไปจนถึง 100 Gb ซึ่งคุณภาพจะขึ้นอยู่กับขนาดไฟล์ และความเข้ากันได้ในตัวเพลงอีกทีนึง

ส่วน Hardware แน่นอนว่ามีผลในเรื่องของการประมวลผล, การรองรับความจุ, และความเร็วในการทำงานด้วย ถ้าสเปคคอมไม่แรง เราอาจต้องทนเจอกับปัญหาทั้งคอมช้า, เสียงเริ่มกระตุก ชัดบ้าง เสียงไม่มาบ้าง, หรือที่แย่กว่านั้นคือไม่สามารถรับไฟล์ใหญ่ๆได้และทำให้การทำงานออกมาช้าเกินไป ดังนั้นคอมก็มีส่วนสำคัญในเรื่องของคุณภาพเสียงและการทำงานเช่นกันครับ

ไมโครโฟน แน่นอนว่า ไมค์มีผลในเรื่องของการอัดเสียง ยิ่งดีคุณภาพเสียงที่อัดยิ่งสูง

แต่ถ้าพูดถึงลำโพง หรือ หูฟัง จะเป็นเรื่องของการรับเสียง ว่าเสียงในคอมที่เราได้ยินนั้นจะดีแค่ไหน ซึ่งลำโพงกับหูฟังมีผลอย่างมากในการทำเพลง เพราะมันคือตัวที่ทำให้เรารู้ว่า เสียงของเรามัน “แย่” หรือ “ดี” เพราะถึงแม้เราจะมี Plugin หรืออุปกรณ์ทุกๆอย่างดีหมดแล้ว แต่ถ้ามีลำโพงหรือหูฟังที่ไม่ดี เสียงที่เราได้ยินอาจเพี้ยนหรือแย่ไปเลยก็ได้ ทั้งที่จริงๆ มันอาจจะดีอยู่แล้วก็ได้

ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ เริ่มแรกจัดคอมสเปคดีๆที่เหมาะกับงานของเรา ต่อมาค่อยมาเริ่มซื้อหูฟัง, ลำโพงก่อน, หลังจากนั้นก็ซื้อ Sound card ดีๆ, ส่วนที่เหลือก็เป็น Plugin, และอุปกรณ์ที่ใช้ในการอัดเพลงต่างๆ

สรุป

DAWs ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคุณภาพเสียง มันเป็นเพียงแค่ Software หรือเครื่องมือที่ช่วยเอาเสียงทุกๆอย่างมารวมกันให้กลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา สิ่งที่ส่งผลจริงๆจะเป็น Sound Card, Plugin หรือตัว Hardware ต่างๆ ของเรา ส่วนใครจะบอกว่า “DAWs อันนั้นอันนู้นดีกว่า” ก็ต้องพูดตรงๆว่ามันไม่มีอันไหนดีสุดหรือแย่สุดครับ
อยู่ที่ว่าคุณถนัดอันไหนมากกว่ากัน

ส่วนใครที่ต้องการอยากจะรู้ว่าแต่ละอุปกรณ์ที่ผมกล่าวมานั้น ต้องซื้อแบบไหนถึงจะดี สามารถเข้าไปอ่านบทความเหล่านี้ได้เลยครับ

https://verycatsound.com/blog-soundcard/

https://verycatsound.com/blog-headphone/

https://verycatsound.com/blog-studio-monitor/

https://verycatsound.com/blog-music-computer/

The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE

หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ

หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link

http://mkt.verycatsound.academy/mf2

——————

Contact

Line ID :

• เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
• เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound

Tel. : 0856662425
Website : verycatsound.com
FB : http://www.facebook.com/verycatsound
YT : http://www.youtube.com/c/verycatsound