รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น ปั้นธุรกิจ พิชิตฝัน ซีรีส์แนวธุรกิจ ปลุกไฟคนรักงาน
ซีรีส์ที่เปิดเรื่องขึ้นมาด้วยประโยคที่ว่า “ซีรีส์เรื่องนี้อุทิศให้หนุ่มสาวที่มีไฟในการทำงาน” มันจะช่วยปลุกไฟในตัวเราได้ซะขนาดไหน เลยลองเปิดดูสักหน่อย กับซีรีส์ญี่ปุ่นที่เพิ่งลงฉายทาง Netflix เรื่อง “ปั้นธุรกิจ พิชิตฝัน” หรือชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า “Kaisha wa Gakkou jane-n da yo” เรื่องราวของหนุ่มไฟแรง ที่แก้เผ็ดบริษัทด้วยเอง ด้วยการออกมาเปิดบริษัทเองซะเลย หลังจากที่โดนขโมยไอเดียแผนธุรกิจไป เนื้อเรื่องก็จะเล่าถึงการทำธุรกิจ และการแก้เกมธุรกิจไปมาอย่างดุเดือด เรื่องราวจะเป็นอย่างไร น่าสนใจขนาดไหน ลองมาอ่านรีวิวกันเลยค่ะ
เรื่องราวของ “ปั้นธุรกิจ พิชิตฝัน”
เรื่องราวเริ่มต้นจาก “เท็ปเป ฟูจิมูระ” หนุ่มแกลย่านชิบูยะ ที่เริ่มก่อตั้งธุรกิจตัวเองตั้งแต่อายุ 20 ปี โดยรวบรวมพ้องเพื่อนชาวแกลมาเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์รีวิวสินค้า จนประสบความสำเร็จ แต่แล้วเมื่อวันเวลาผ่านไป ธุรกิจนี้ก็ได้ชะงักลง ส่วนเขาเองก็มุ่งหน้าไปสู่เส้นทางมนุษย์ออฟฟิศธรรมดาคนหนึ่ง โดยเขาได้แรงบันดาลใจจากการอ่านหนังสือของ CEO “ซาวาเบะ ซูซูมุ” หนังสือที่เขาเขียนเต็มไปด้วยถ้อยคำที่ปลุกไฟในตัวเขามาก จนตัดสินใจมาสมัครงานที่นี่ และได้เข้ามาทำงานในตำแหน่ง PR
จุดพลิกผันของเขาได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อวันหนึ่งบริษัทได้เปิดโอกาสให้พนักงานนำเสนอไอเดียธุรกิจใหม่ และถ้าใครชนะจะได้ลุยกับโปรเจ๊กนั้น ด้วยความที่เท็ปเปเองก็เบื่องานที่ตัวเองทำแล้ว ก็เลยรวมทีมกับเพื่อนมาคิดแผนธุรกิจเพื่อเข้าแข่งขัน และแผนนี้ก็ดันเตะตา CEO ซาวาเบะซะด้วย แต่เกมกลับพลิก เมื่อเรื่องมันกลายเป็นว่า ทีม “ยามาโนะ” พนักงานรุ่นพี่อ้างว่าได้คิดแผนธุรกิจนี้ออกเช่นกัน และด้วยความที่ยามาโนะอาวุโสกว่า CEO เลยให้แผนของยามาโนะชนะ แล้วเท็ปเปต้องเข้าไปร่วมกับทีมนั้น แต่งานนี้เท็ปเปรู้ชัดๆ ว่า ยามาโนะไม่ได้คิดแผนธุรกิจนั้นหรอก แต่เป็นการร่วมมือกับ CEO และขโมยแผนที่เขาคิดไป
เท็ปเปรู้สึกโกรธแค้นมาก เลยตัดสินใจลาออก และเปิดบริษัทตัวเอง เพื่อแก้เผ็ดที่ทำงานเก่า ด้วยโมเดลธุรกิจอินฟลูเอ็นเซอร์เหมือนกัน แต่โลกของธุรกิจไม่ได้ง่ายขนาดนั้น และดูเหมือนว่า CEO วาวาเบะ ก็เป็นผู้กว้างขวาง พอมีกำลังคนที่เขาไปขัดขวางแผนการของเท็ปเปได้ทุกอย่าง แต่ด้วยใจที่มุ่งมั่น เท็ปเปขอประกาศกร้าวว่า เขาจะทำธุรกิจที่เป็นต้นแบบแห่งยุคศตวรรษที่ 21 ให้เป็นจริงให้ได้! เ
สิ่งที่น่าสนใจ
1. ได้ไอเดียการทำธุรกิจ
ด้วยความที่เป็นซีรีส์แนวธุรกิจ ในเรื่องก็จะมีไอเดียการทำธุรกิจมากมาย รวมไปถึงการก่อตั้งบริษัทให้เห็นตลอดเรื่องว่า กว่าจะเริ่มต้นก่อตั้งได้ต้องผ่านอะไร และการดำเนินธุรกิจต่อไปให้ได้ และยิ่งใหญ่กว่าเดิมต้องทำอะไรบ้าง ใครที่อยากกระตุ้นต่อมไอเดีย แนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ จะเห็นไอเดียการทำธุรกิจที่น่าสนใจ แม้ว่ามันจะไม่แปลกใหม่อะไรขนาดนั้น แต่คิดว่า น่าจะต่อยอดไอเดียต่อไปได้
2. นี่คือบริษัท ไม่ใช่โรงเรียน! สะท้อนโลกจริงที่ไม่ได้หอมหวาน
จริงๆ แล้ว ชื่อของซีรีส์เรื่องนี้ ถ้าแปลเป็นไทยจะแปลได้ว่า “นี่คือบริษัท ไม่ใช่โรงเรียน!” ซึ่งเป็นวลีที่เท็ปเปจะพูดตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะฉาก Climax ที่สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตเราว่า ตอนเด็กๆ เราทุกคนต่างเรียนในโรงเรียน และถูกสังคมโรงเรียนปลูกฝังมาในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิสัย แนวคิด หรือการกระทำบางอย่าง จนเราเผลอติดมาใช้ในชีวิตการทำงาน แต่ความเป็นจริงแล้ว เราควรจะสลัดความเชื่อบางอย่างในโลกของโรงเรียน เพราะโลกการทำงาน หรือโลกธุรกิจมันไม่ได้หอมหวานเหมือนวัยเด็กขนาดนั้น อย่างเช่น ฉากนี้ค่ะ เท็ปเปกับเพื่อน ได้ไปบาร์แห่งหนึ่ง ที่มีนักลงทุนมาคอยฟังแผนธุรกิจ ถ้าเขาถูกใจแผนไหน ก็จะให้เงินลงทุน แต่เท็ปเปของเราดันไปแซงคิว และไปมีเรื่องกับคนในนั้น นักลงทุนคนนั้นเลยบอกว่า ถ้าอยากให้เขาฟังแผนที่ว่า ต้องก้มไปกินสปาเก็ตตี้ที่เขาเทลงพื้นก่อน คนรอบๆ นั้นต่างหัวเราะเยาะที่เขาถูกให้ทำแบบนั้น แต่เท็ปเปก็ไม่สนใจคำเยาะเย้ย แต่กลับนั่งกินสปาเก็ตตี้ ที่เขาบอกอีกมุมว่า มันไม่ใช่การกินสปาเก็ตตี้ แต่มันคือการคว้าโอกาสครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนเส้นทางอนาคตได้
“ถ้าในโรงเรียน การกินสปาเก็ตตี้ที่คนเทลงพื้นคงมีหวังได้ซวยแน่
แต่โลกจริงมันไม่ใช่แบบนั้น ไม่ว่ามันจะอับอายแค่ไหน
มันก็ไม่น่าอาจถ้าทำเพื่อโอกาสอันยิ่งใหญ่…
ตอนนี้ฉันไม่ได้กินสปาเก็ตตี้ที่ตกพื้น แต่ตอนนี้ฉันกำลังกินเศษเสี้ยวความฝันของฉันอยู่!”
3. ความสนุกจากการแก้เผ็ดเกมธุรกิจที่มีตลอดเรื่อง
ความสนุกเรื่องนี้ เห็นที่จะเป็นการแก้เผ็ดทางธุรกิจ ที่มีเรื่องคอยให้ลุ้นตลอด เรื่องยากตั้งแต่เริ่มเรื่อง ตัวละครเอกอย่างเท็ปเป มีใจที่มุ่งมั่น และ Passion ที่แรงกล้า แต่ดูเหมือนว่าการตั้งธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย และเขาดันไปมีเรื่องกับ CEO ที่มี Connection กว้างขวางมากพอที่จะขัดขาเขาได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนกับนักลงทุนให้ทำทีจะให้เงินทุน แต่มาเททุกอย่างในวินาทีสุดท้าย หรือการแย่งชิงตัวอินฟลูเอ็นเซอร์ทั้งตลาดที่มี ที่คอยลุ้นเอาว่า และเท็ปเปจะแก้เกมอย่างไรต่อไปดี ในสถานการณ์ที่ดูมืดมน
4. ปลุกไฟในตัวเรา ให้มีแรงฮึดกลับมาทำงานที่รักอีกครั้ง
ถ้าช่วงนี้ใครรู้สึกเบื่อๆ กับงานที่ทำ หรือจากแรงบันดาลใจที่จะลงมือทำอะไรสักอย่างล่ะก็ แนะนำให้มาเติมไฟที่เรื่องนี้กันเลยค่ะ แรงบันดาลใจที่สะท้อนออกมาจากคาแร็กเตอร์ของตัวละครเอกอย่าง “เท็ปเป” ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ความมุ่งมั่น ลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ส่วนตัวชอบเวลาที่ตัวละครมาระดมควาวมคิดทำแผนธุรกิจ ที่ทำให้เห็นว่า มันยังมีอะไรที่น่าทำอีกหลายอย่าง รวมไปถึงการแก้เกมธุรกิจ ที่ดูทีไรก็ยิ่งปลุกไฟในตัวเรา ให้ลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง
ใครสนใจอยากรับชม สามารถเข้าไปดูได้ที่ Netflix เลยค่ะ สำหรับเรื่องนี้มีทั้งหมด 2 Seasonsด้วยกัน ซึ่งตอนนี้ทาง Netflix ลงครบทั้ง 2 Seasons เรียบร้อยแล้วค่ะ ขอให้มีแรงบันดาลใจและกล้าลงมือทำตามความฝันกันนะคะ
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องแนะนำ :
– แนะนำซีรีส์แนวต้มตุ๋น สนุก หักมุม รู้ทันแก๊งลวงโลก
– Watashi no Oyome Kun เมื่อพระเอกขอข้ามขั้นเป็นภรรยา!
– 18/40 ซีรีส์เล่าเรื่องชีวิตสาวต่างวัย ชีวิตต่างกันให้มาพบกัน
– รวมซีรีส์ญี่ปุ่น พล็อตแต่งงานหลอกๆ แกล้งๆ เป็นแฟนจนสะดุดรัก
– รีวิว Burn the House Down ซีรีส์ญี่ปุ่นสืบสวนล้างแค้น จากมังงะชื่อดัง
ขอขอบคุณรูปภาพจาก:
– ซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง “ปั้นธุรกิจ พิชิตฝัน”
– https://mydramalist.com/29049-kaisha-wa-gakkou-jane-n-da-yo
– http://torendmaru.seesaa.net/article/459442408.html
– https://news.livedoor.com/article/detail/14839640/
#รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น ปั้นธุรกิจ พิชิตฝัน ซีรีส์แนวธุรกิจ ปลุกไฟคนรักงาน