เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
4 คน
Level
3
เราเอาไอเดียการทำขนมปังฟูกาส มาทำขนมปังหน้าผีกินกับซุปฟักทองอุ่นๆต้อนรับเดือนฮาโลวีน เมนูนี้รับประกันความง่าย เพราะเป็นขนมปังที่นวดมือได้ ไม่ต้องใช้เครื่อง เคล็ดลับแช่ส่วนผสมแป้ง น้ำให้เย็นก่อนนำมาผสมกันแล้วนวด เนื่องโดว์ขนมปังตอนนวดจะค่อนข้างแฉะ
INGREDIENTS
แป้งขนมปัง
250 กรัม
เกลือป่น
5 กรัม
ยีสต์
4 กรัม
โรสแมรีสับ
2 ช้อนชา
น้ำเย็น
175 กรัม
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น
15 กรัม
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้นและดอกเกลือสำหรับโรยก่อนเข้าอบ
เนยสดชนิดจืด
4 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่สับหยาบ
1 ถ้วย
ฟักทองหั่นเต๋า 1 ซม.
4 ถ้วย
น้ำ
3 ถ้วย
ใบกระวาน
2 ใบ
วิปปิ้งครีม
1/4 ถ้วย
เกลือสมุทรและพริกไทยขาวป่น
ตามชอบ
วิปปิ้งครีมและเมล็ดฟักทองอบสำหรับแต่งหน้า
อุปกรณ์ ไม้คลึงแป้ง ถาดอบ เครื่องปั่นน้ำ
METHOD
- ทำขนมปังฟูกาสโดยใส่แป้งขนมปัง เกลือ ยีสต์ และโรสแมรีลงในอ่างผสม ใช้พายไม้คนให้เข้ากัน ค่อยๆใส่น้ำลงในอ่าง ขณะที่คนส่วนผสมแป้งให้เข้ากัน พอแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อน ใส่น้ำมันมะกอก นวดต่อให้เข้ากันและไม่ติดมือ ขึ้นรูปเป็นก้อนกลม นำแป้งโดว์ใส่อ่างผสม ปิดด้วยพลาสติกแรป พักไว้ 1 ชั่วโมง
- อุ่นเตาอบที่ 200 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ พอครบ 1 ชั่วโมง แบ่งแป้งโดว์เป็นก้อนละ 40 กรัม คลุมผ้าขาวบางชุบน้ำหมาด พักไว้ประมาณ 10 นาที ใช้ไม้คลึงแป้งคลึงแป้งโดว์ให้เป็นแผ่นกลมประมาณ 3-4 นิ้ว ใช้มีดกรีดเป็นเส้น 3 เส้นให้เป็นตาและปาก ดึงยืดแป้งออกให้เป็นรูปหน้าผี แล้ววางใส่ถาดพักไว้ ทำจนครบทุกชิ้น แล้วคลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาด พักไว้ 30 นาที ครบเวลาแล้วโรยเกลือสมุทรหรือดอกเกลือเล็กน้อย นำเข้าอบ 12 นาที นำขนมปังออกจากเตาอบ พักไว้
- ทำซุปฟักทองโดยตั้งบนไฟกลาง ผัดเนยกับหอมใหญ่จนหอมใหญ่สุกนุ่ม ใส่ฟักทองผัดต่อให้เข้ากันแล้วเติมน้ำ และใบกระวาน เคี่ยวจนฟักทองสุกนุ่ม ปิดไฟ ตักใบกระวานออก นำซุปฟักทองไปปั่นจนละเอียด เทกลับลงหม้อ นำกลับไปตั้งไฟพอเดือด ใส่วิปปิ้งครีม คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ปิดไฟ
- จัดเสิร์ฟขนมปังฟูกาสกับซุปฟักทองร้อนๆ
Gallery
Recommended Articles
ลงสรง เมนูนี้จะแบ่งองค์ประกอบออกเป็น 4 อย่าง อย่างแรก คือ ผัดวุ้นเส้น ปรุงรสชาติอ่อนๆ ลิ้นหมูและหูหมูต้มพะโล้ ซึ่งปกติแล้วที่บ้านเชฟน่านจะมีเจ้าอร่อย ไม่ได้ทำเอง ซื้อมาแล้วเอามาหั่นเป็นชิ้นพอคำ ต่อมาคือ ผักสดนานาชนิด ทั้งผักใบ ผักหอมสมุนไพรต่างๆ อาทิ ผักชี โหระพา สะระแหน่ ผักแพ้ว เพียบ! และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ออกสีเหลืองอมชมพู วิธีรับประทานให้เด็ดผักต่างๆใส่ในชามตามชอบ ตามด้วยผัดวุ้นเส้น หูหมูเเละลิ้นหมูตุ๋นพะโล้ ปิดท้ายด้วยน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ เคล้าให้เข้ากัน กินองค์ประกอบครบทั้ง 4 อย่างพร้อมกันในคำเดียว อร่อยมากๆ
มะเขือเทศอบแห้งหรือตากแห้งเป็นภูมิปัญญาของชนชาติอิตาเลียนที่ผูกพันธ์กับมะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจจนหาวิธีถนอมมะเขือเทศเทศลูกเล็กใหญ่ให้ออกมาเป็นของแห้งเก็บไว้กินได้นานขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยากเลย หาช่วงที่อากาศเป็นใจ แดดร้อนจัดๆ นำมะเขือเทศผ่าครึ่งแล้วโรยเกลือไปตากแดด 7-10วันจนแห้งสนิท แล้วเก็บไว้ในน้ำมันมะกอก ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรหน่อยจะใส่กระเทียม พริกไทยเข้าไป น้ำมันนี้เอาไปผัดพาสต้าหรือใส่น้ำสลัดก็อร่อย หาวันที่ฟ้าฝนเป็นใจแล้วลองทำดูค่ะ
เรดโอ๊กนอกจากกินเป็นผักสลัดสดชื่นแล้วนั้นยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำปั่นได้อีกด้วย เพียงเพิ่มวัตถุดิบอย่างอื่นเพื่อให้รสชาติอร่อยขึ้นอย่างสตรอวเบอร์รี น้ำมะนาว น้ำสับปะรดและน้ำเชื่อมสีแดง จากนั้นก็ปั่นให้เข้ากันก่อนนำไปแช่ให้เย็นเป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วปั่นอีกครั้งแค่นี้ก็ได้เครื่องดื่มดับร้อนกินในช่วงนี้ที่อุณหภูมิทะลุไปถึง 40 องศาแบบนี้
จิ้นแดง จิ้นเเห้งหรือจิ้นเกลือ คือ วิธีการถนอมอาหารของคนภาคเหนือ เเต่เดิมใช้เนื้อวัวทำให้ได้เนื้อที่มีสีเเดงเเต่ในปัจจุบันหันมาใช้เนื้อหมูมากขึ้น วิธีการทำคือสไลด์เนื้อสัตว์เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่สีผสมอาหารเพื่อทำให้เนื้อมีสีเเดง จากนั้นนำไปตากแดดให้ได้ที่แล้วนำย่างบนเตาถ่านให้พอสุกเเละเเห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน
Baked Alaska เค้กไอศกรีมเก่าแก่ มีประวัติน่าสนใจได้ถูกคิดค้นขึ้นโดย Charles Ranhofer เชฟชาวฝรั่งเศสเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาได้ซื้อเกาะอลาสก้าจากรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นขนมที่ได้แรงบันดาลใจจากการค้นพบทฤษฏีการนำพาความร้อนของ Sir Benjamin Thomson ก่อนหน้านั้นที่พบว่าเมอร์แรงก์ไข่ขาวที่มีฟองอากาศมากมายนั้นเป็นฉนวนความร้อนอย่างดีจนทำให้ไอศกรีมด้านในไม่ละลาย
ลงสรง เมนูนี้จะแบ่งองค์ประกอบออกเป็น 4 อย่าง อย่างแรก คือ ผัดวุ้นเส้น ปรุงรสชาติอ่อนๆ ลิ้นหมูและหูหมูต้มพะโล้ ซึ่งปกติแล้วที่บ้านเชฟน่านจะมีเจ้าอร่อย ไม่ได้ทำเอง ซื้อมาแล้วเอามาหั่นเป็นชิ้นพอคำ ต่อมาคือ ผักสดนานาชนิด ทั้งผักใบ ผักหอมสมุนไพรต่างๆ อาทิ ผักชี โหระพา สะระแหน่ ผักแพ้ว เพียบ! และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ออกสีเหลืองอมชมพู วิธีรับประทานให้เด็ดผักต่างๆใส่ในชามตามชอบ ตามด้วยผัดวุ้นเส้น หูหมูเเละลิ้นหมูตุ๋นพะโล้ ปิดท้ายด้วยน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ เคล้าให้เข้ากัน กินองค์ประกอบครบทั้ง 4 อย่างพร้อมกันในคำเดียว อร่อยมากๆ
มะเขือเทศอบแห้งหรือตากแห้งเป็นภูมิปัญญาของชนชาติอิตาเลียนที่ผูกพันธ์กับมะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจจนหาวิธีถนอมมะเขือเทศเทศลูกเล็กใหญ่ให้ออกมาเป็นของแห้งเก็บไว้กินได้นานขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยากเลย หาช่วงที่อากาศเป็นใจ แดดร้อนจัดๆ นำมะเขือเทศผ่าครึ่งแล้วโรยเกลือไปตากแดด 7-10วันจนแห้งสนิท แล้วเก็บไว้ในน้ำมันมะกอก ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรหน่อยจะใส่กระเทียม พริกไทยเข้าไป น้ำมันนี้เอาไปผัดพาสต้าหรือใส่น้ำสลัดก็อร่อย หาวันที่ฟ้าฝนเป็นใจแล้วลองทำดูค่ะ
เรดโอ๊กนอกจากกินเป็นผักสลัดสดชื่นแล้วนั้นยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำปั่นได้อีกด้วย เพียงเพิ่มวัตถุดิบอย่างอื่นเพื่อให้รสชาติอร่อยขึ้นอย่างสตรอวเบอร์รี น้ำมะนาว น้ำสับปะรดและน้ำเชื่อมสีแดง จากนั้นก็ปั่นให้เข้ากันก่อนนำไปแช่ให้เย็นเป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วปั่นอีกครั้งแค่นี้ก็ได้เครื่องดื่มดับร้อนกินในช่วงนี้ที่อุณหภูมิทะลุไปถึง 40 องศาแบบนี้
จิ้นแดง จิ้นเเห้งหรือจิ้นเกลือ คือ วิธีการถนอมอาหารของคนภาคเหนือ เเต่เดิมใช้เนื้อวัวทำให้ได้เนื้อที่มีสีเเดงเเต่ในปัจจุบันหันมาใช้เนื้อหมูมากขึ้น วิธีการทำคือสไลด์เนื้อสัตว์เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่สีผสมอาหารเพื่อทำให้เนื้อมีสีเเดง จากนั้นนำไปตากแดดให้ได้ที่แล้วนำย่างบนเตาถ่านให้พอสุกเเละเเห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน
Baked Alaska เค้กไอศกรีมเก่าแก่ มีประวัติน่าสนใจได้ถูกคิดค้นขึ้นโดย Charles Ranhofer เชฟชาวฝรั่งเศสเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาได้ซื้อเกาะอลาสก้าจากรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นขนมที่ได้แรงบันดาลใจจากการค้นพบทฤษฏีการนำพาความร้อนของ Sir Benjamin Thomson ก่อนหน้านั้นที่พบว่าเมอร์แรงก์ไข่ขาวที่มีฟองอากาศมากมายนั้นเป็นฉนวนความร้อนอย่างดีจนทำให้ไอศกรีมด้านในไม่ละลาย
ลงสรง เมนูนี้จะแบ่งองค์ประกอบออกเป็น 4 อย่าง อย่างแรก คือ ผัดวุ้นเส้น ปรุงรสชาติอ่อนๆ ลิ้นหมูและหูหมูต้มพะโล้ ซึ่งปกติแล้วที่บ้านเชฟน่านจะมีเจ้าอร่อย ไม่ได้ทำเอง ซื้อมาแล้วเอามาหั่นเป็นชิ้นพอคำ ต่อมาคือ ผักสดนานาชนิด ทั้งผักใบ ผักหอมสมุนไพรต่างๆ อาทิ ผักชี โหระพา สะระแหน่ ผักแพ้ว เพียบ! และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ออกสีเหลืองอมชมพู วิธีรับประทานให้เด็ดผักต่างๆใส่ในชามตามชอบ ตามด้วยผัดวุ้นเส้น หูหมูเเละลิ้นหมูตุ๋นพะโล้ ปิดท้ายด้วยน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ เคล้าให้เข้ากัน กินองค์ประกอบครบทั้ง 4 อย่างพร้อมกันในคำเดียว อร่อยมากๆ
มะเขือเทศอบแห้งหรือตากแห้งเป็นภูมิปัญญาของชนชาติอิตาเลียนที่ผูกพันธ์กับมะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจจนหาวิธีถนอมมะเขือเทศเทศลูกเล็กใหญ่ให้ออกมาเป็นของแห้งเก็บไว้กินได้นานขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยากเลย หาช่วงที่อากาศเป็นใจ แดดร้อนจัดๆ นำมะเขือเทศผ่าครึ่งแล้วโรยเกลือไปตากแดด 7-10วันจนแห้งสนิท แล้วเก็บไว้ในน้ำมันมะกอก ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรหน่อยจะใส่กระเทียม พริกไทยเข้าไป น้ำมันนี้เอาไปผัดพาสต้าหรือใส่น้ำสลัดก็อร่อย หาวันที่ฟ้าฝนเป็นใจแล้วลองทำดูค่ะ
เรดโอ๊กนอกจากกินเป็นผักสลัดสดชื่นแล้วนั้นยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำปั่นได้อีกด้วย เพียงเพิ่มวัตถุดิบอย่างอื่นเพื่อให้รสชาติอร่อยขึ้นอย่างสตรอวเบอร์รี น้ำมะนาว น้ำสับปะรดและน้ำเชื่อมสีแดง จากนั้นก็ปั่นให้เข้ากันก่อนนำไปแช่ให้เย็นเป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วปั่นอีกครั้งแค่นี้ก็ได้เครื่องดื่มดับร้อนกินในช่วงนี้ที่อุณหภูมิทะลุไปถึง 40 องศาแบบนี้
จิ้นแดง จิ้นเเห้งหรือจิ้นเกลือ คือ วิธีการถนอมอาหารของคนภาคเหนือ เเต่เดิมใช้เนื้อวัวทำให้ได้เนื้อที่มีสีเเดงเเต่ในปัจจุบันหันมาใช้เนื้อหมูมากขึ้น วิธีการทำคือสไลด์เนื้อสัตว์เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่สีผสมอาหารเพื่อทำให้เนื้อมีสีเเดง จากนั้นนำไปตากแดดให้ได้ที่แล้วนำย่างบนเตาถ่านให้พอสุกเเละเเห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน
Baked Alaska เค้กไอศกรีมเก่าแก่ มีประวัติน่าสนใจได้ถูกคิดค้นขึ้นโดย Charles Ranhofer เชฟชาวฝรั่งเศสเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาได้ซื้อเกาะอลาสก้าจากรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นขนมที่ได้แรงบันดาลใจจากการค้นพบทฤษฏีการนำพาความร้อนของ Sir Benjamin Thomson ก่อนหน้านั้นที่พบว่าเมอร์แรงก์ไข่ขาวที่มีฟองอากาศมากมายนั้นเป็นฉนวนความร้อนอย่างดีจนทำให้ไอศกรีมด้านในไม่ละลาย
Recommended Videos