จนกว่าจะถึงวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งจะเป็นวันฉายจริงของ ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ หนังภาคต่อ ‘Aquaman’ (2018) หนังเรื่องสุดท้ายของยุค DCEU ก่อนรีเซตจักรวาลไปสู่จักรวาล DCU ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแฟน ๆ ก็ยังคงสงสัยว่าหนังเรื่องนี้จะยังคงเหลือพื้นที่ให้กับบทบาท เมรา (Mera) ที่นำแสดงโดย แอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard) ที่แพ้คดีฟ้องร้องหมิ่นประมาทกับอดีตสามี จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) จนทำให้แฟนหนังต่างออกมารุมแอนตี้จนหลายฝ่ายมองว่าอาจส่งผลต่อรายได้ของหนัง จะยังคงมีอยู่ในหนังมากน้อยแค่ไหน

แม้ เจมส์ วาน (James Wan) ผู้กำกับหนังเรื่องนี้จะเคยออกมาเปิดเผยแล้วว่า บทบาทของเฮิร์ดนั้นไม่ได้มีความสำคัญในภาคต่อนี้มาตั้งแต่แรก เพราะด้วยแนวทางของหนังที่เปลี่ยนไปจากภาคแรก ทำให้บทบาทของเมรา ราชินีแห่งแอดแลนติส และภรรยาของ Aquaman จึงมีบทบาทน้อยลง ประกอบกับในตัวอย่างหนังที่ปรากฏให้เห็นเมราแบบแวบ ๆ เพียงเสี้ยววินาที จนชวนให้สงสัยว่าเมราจะปรากฏในหนังฉบับเต็มกี่นาทีกันแน่

ในระหว่างการพิจารณาคดีที่เฮิร์ดถูกอดีตสามี จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) ฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท เธอได้ให้ปากคำกับศาลว่า ทาง DC Films และ Warner Bros. Discovery ได้พยายามลดบทบาทของเธอ โดยอ้างว่าเป็นเพราะเคมีที่ไม่เข้ากันระหว่างเธอกับ เจสัน โมโมอา (Jason Momoa) นักแสดงเจ้าของบท Aquaman

Aquaman and the Lost Kingdom Amber Heard

ล่าสุด วานได้เปิดเผยเรื่องนี้อีกครั้งกับนิตยสาร Empire ฉบับล่าสุด เพื่อเป็นการยืนยันถึงการลดความสำคัญของบทบาทเมราใน ‘Aquaman 2’ ลง เนื่องจากการที่ในภาคนี้ เขาตั้งใจจะยึดแนวทางการเป็นหนังคู่หูผจญภัยที่เดินเรื่องด้วยตัวละคร อาร์เธอร์ เคอร์รี (Arthur Curry) หรือ Aquaman และ ออร์ม (Orm) น้องชายต่างมารดา และการรับมือกับวายร้าย แบล็กแมนตา (Black Manta) (ยาห์ยา อับดุล-มาทีน ที่ 2 – Yahya Abdul-Mateen II) ที่กลับมาทวงแค้นอีกครั้ง

“คือมันก็ยุติธรรมอยู่นะครับที่ (เฮิร์ด) จะบอกว่าตัวละครของเธอเองถูกลดบทบาทลง เพราะเธอเองไม่ได้มีอยู่ในแผนตามความคิดของผม ตอนที่ผมกำลังทำหนังหนังเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

“นักแสดงไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ว่าผู้กำกับกำลังคิดอะไรอยู่ในเบื้องหลัง เพราะนี่เป็นแผนที่ผมคิดเอาไว้มาตลอดแล้วตั้งแต่แรก ผมเป็นคนเสนอไอเดียว่าภาคแรกนั้นจะออกมาเป็นแนวรอมคอมผสมแอ็กชันผจญภัยเหมือนหนัง ‘Romancing the Stone’ (1984) ในขณะที่ ‘Aquaman 2’ จะเป็นแนวคู่หูผสมตลก ผมอยากให้มันมีแนวทางคล้าย ๆ กับหนัง ‘Tango & Cash’ (1989)”

บทบาทเมราของเฮิร์ด ใน ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ ก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมากมาย เนื่องจากในระหว่างถ่ายทำ เป็นช่วงที่เฮิร์ดกำลังตกอยู่ในประเด็นการฟ้องร้อง ซึ่งเธอถูกโจมตีอย่างถล่มทลาย หลังจากที่มีการพบข้อพิรุจเกี่ยวกับหลักฐานและคำให้การที่ไม่สมเหตุสมผลที่ใช้ในการโจมตีอดีตสามีจนเสื่อมเสียชื่อเสียง และกระแสนั้นก็ตีกลับมาที่ตัวเธอเองอีกครั้งหลังจากมีคำตัดสินออกมา

Aquaman

เว็บไซต์ Variety ได้รายงานว่า การพิจารณาคดีและชื่อเสียของเฮิร์ด ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการถ่ายทำหนัง ‘Aquaman 2’ จนเกิดความไม่ราบรื่นหลายประการ ทั้งการที่มีรายงานว่าเฮิร์ดถูกโมโมอาล้อเลียนโดยแต่งตัวเป็นเดปป์ เพื่อหวังกดดันเธอให้ออกจากหนัง หรือแม้แต่การห้ามเธอไม่ให้เซลฟีกับคนอื่น ซึ่งภายหลัง DC ก็ได้ออกมาปฏิเสธในข้อกล่าวหานี้

นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่า แท้ที่จริงเฮิร์ดได้ถูกวาน และสตูดิโอสั่งปลดออกจากโปรเจกต์หนังเรื่องนี้ นับตั้งแต่หนังภาคแรกเข้าฉายไปแล้วด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายเฮิร์ดก็ได้กลับมาแสดงใน ‘Aquaman 2’ เพราะมีข่าวลือว่า อีลอน มัสก์ (Elon Musk) นักธุรกิจจอมฉาวที่เคยมีความสัมพันธ์กับเธอ ให้ทนายส่งจดหมายเปิดผนึกถึงสตูดิโอ โดยมีเนื้อหาจงใจข่มขู่ว่า หากไล่เฮิร์ดออกจากหนัง เขาจะตามไปเผาค่ายหนังและบ้านทีมงานทุกคน

แม้จะยังไม่มีใครทราบว่า บทบาทของเฮิร์ดในภาคนี้จะมีมากน้อยเพียงไหน ซึ่งจากตัวอย่างที่ปล่อยออกมา ภาพของ Aquaman กำลังอุ้มเด็กน้อย ก็น่าจะพอจะอนุมานได้ว่า ใน ‘Aquaman 2’ เฮิร์ดกำลังจะกลายเป็นแม่ของทายาทคนใหม่ของแอตแลนติส ดินแดนใต้สมุทร แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่า เมราจะมีบทบาทมากน้อยแค่ไหนในหนังภาคนี้

ด้วยความที่หนังเรื่องนี้จะเป็นหนังเรื่องสุดท้ายอย่างเป็นทางการของ DCEU (DC Extended Universe) ที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ว่า อาจไม่มีนักแสดงจากยุค DCEU คนใดที่ได้ไปต่อในยุค DCU จึงเป็นเรื่องที่ต้องตามกันต่อไปว่า หากมี ‘Aquaman 3’ เกิดขึ้นในจักรวาล DCU เฮิร์ดที่อาจถูกลดลงไปเป็นบทสมทบในภาคนี้ จะยังมีอนาคตได้ไปต่อกับจักรวาลใหม่อีกหรือไม่


ที่มา: The Direct, Screen Rant, Variety

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส